ในเรื่องของการเรียนนั้นควรเป็นเรื่องที่เราน่าจะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากถึงจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดการเรียนในส่วนของประถมปลายเข้ามอหนึ่งนั้นอันนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่เราไม่ควรที่จะมองข้ามไปได้เลยเพราะเกรดเฉลี่ยที่ดีนั้นส่งผลให้เรานั้นประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก
เรื่องของการศึกษาไม่ว่าจะชั้นม.ต้นหรือม.ปลายหรือแม้กระทั่งเตรียมที่จะเข้ามหาลัยเป็นเรื่องที่ต้องเอาใจใส่เป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเรียนในประเทศหรือต่างประเทศก็เป็นเรื่องที่ต้องตัดสินด้วยเกรดเฉลี่ยด้วยหลายอย่างเราจะต้องให้ความสนใจตั้งใจทบทวนความรู้ที่ได้เรียนมาทั้งหมด
เกรดเฉลี่ยสำคัญอย่างไร?
ผู้ใหญ่หลายคน รวมไปถึงบริษัทบางบริษัทที่ตั้งความหวังไว้ที่ เกรดเฉลี่ย ของเด็กๆ ว่าเกรดเฉลี่ยยิ่งสูง หมายความว่าเด็กคนนี้เก่งมาก แต่ก็ต้องมองอีกมุม คือต่อให้มีเกรดเฉลี่ยที่ดีแต่เขาไม่สามารถเอาความรู้ไปใช้ในการทำงานได้ คนที่มีเกรดเฉลี่ยที่ดีหลายต่อหลายคนไม่สามารถเอาตัวรอดในชีวิตการทำงานได้ กับบางคนที่มีเกรดเฉลี่ยไม่ได้สูงนักอาจจะทำงานหรือมีความรู้รอบตัวในการทำงานได้มีเยอะ ที่กล่าวมาทั้งหมดเพื่อให้รู้ว่าเกรดเฉลี่ยไม่ได้วัดค่าความฉลาดคนคนนั้น แต่เป็นเพียงเหมือนใบเบิกทางให้เข้าไปทำงานในที่ที่ดี ในบริษัทที่อยากทำ
แต่เกรดเฉลี่ยก็ยังสำคัญกับการเรียนต่อหรือไปถึงขั้นสมัครงาน และใช่ว่าเกรดเฉลี่ยจะไม่มีความหมายใดๆ เลย เกรดเฉลี่ยอาจจะบ่งบอกถึงความขยันของคนคนนั้นก็เป็นได้ ดังนั้นไม่ว่าจะสำคัญหรือไม่ เราก็ต้องทำทุกอย่างให้เต็มที่ เพื่อที่จะได้ไม่มานั่งเสียใจภายหลัง ถ้าหากเกรดเฉลี่ยสำคัญในบริษัทที่เขาให้ความสำคัญต่อเกรดเฉลี่ย ทั้งนี้จึงอยากให้ลองเปลี่ยนความคิดและลองมาสนใจเกี่ยวกับเกรดเฉลี่ยดู เพื่อให้เด็กไม่เพียงแต่เลือกแค่การเรียนเพียงเท่านั้น แต่ให้เด็กๆ สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ด้วย เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ให้มากขึ้น
เชื่อว่าเกรดเฉลี่ยของเด็กมีผลกับการทำงานแต่ไม่ได้บ่งบอกเงินเดือน
แต่องค์กรที่มีความเชื่อแบบนี้จะทำให้ฐานเงินเดือนของเด็กที่เรียนจบมาสมัครงานหางานทำนั้นมีความยืดหยุ่นหรือแตกต่างกันออกไปเพราะบางบริษัทที่วัดเงินเดือนจากเกรดจะมีชุดความคิดอีกทางคือ ผลเกรดเฉลี่ยดีก็มีความสามารถตามเกรด หรืออาจจะวัดไปถึงความรู้ความสามารถก็ได้
ไม่เชื่อว่าเกรดเฉลี่ยจะมีผลต่อการทำงาน
องค์กรประเภทนี้เชื่อว่าเกรดเฉลี่ยกับผลงานไม่ได้ไปด้วยกันสักเท่าไหร่เพราะการเรียน กับการทำงานนั้นแตกต่างกัน พนักงานจบเกรดเฉลี่ยสูงๆ มาแต่ดันทำงานอะไรไม่ได้เลยก็มาเยอะแยะแต่กับบางคนที่ผลการเรียนไม่ได้ดีกลางๆ หรือไปในทางแย่แต่สามารถเอาตัวรอดในการทำงาน มีไหวพริบดีกว่าก็มีแต่ฐานเงินเดือนก็จะเป็นไปตามความสามารถเพราะอย่างที่บอกไปข้างต้น “เกรดไม่ได้วัดค่าเงินเดือนหรือฐานเงินเดือน ตำแหน่ง” แต่พวกที่เกรดไม่ได้ดีมากแต่ทำงานได้ดีพอสมควรและถ้าทำงานได้หลากหลายขึ้น หรือทำได้มากกว่าจากเดิมพวกนี้ก็จะปรับเงินเดือนให้สูงมากขึ้นไปตามลำดับความสามารถ แสดงว่าองค์กรที่มองเรื่องผลงานมากกว่าเกรดก็ยังมีอยู่
แล้วแบบไหนดีกว่ากัน???
คำตอบก็คือแบบที่ 3 ยิ่งในปัจจุบันมีองค์กรที่กำหนดค่าเกียรตินิยมนั้น เริ่มยกเลิกค่าเกียรตินิยมกันไปเกือบจะทุกที่แล้วเพราะให้เงินเดือนคนนี้มากกว่าคนนั้นแต่ผลงานสู้อะไรคนที่ได้เงินเดือนน้อยกว่าหรือวุฒิการศึกษาน้อยเลย องค์ในแบบที่ 3 นี้จึงเป็นแบบที่ไม่สนวุฒิการศึกษาสักเท่าไหร่ อาจจะสนนิดๆ หน่อยๆ แต่ไม่ได้วัยวุฒิหรือเกรดเป็นหลักขนาดนั้น แต่องค์กรลักษณะนี้จะไปในทาง ใครทำงานดีก็ได้เงินเดือนที่เยอะตามงานที่ทำได้ ทำดีทำเยอะก็ได้เยอะ ทำน้อยก็ได้น้อยเผลอๆ อาจจะไม่ได้เลยไปถึงขั้นไล่ออก และองค์กรแบบนี้ก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ไม่ได้ตัดสินคนจากวุฒิการศึกษาหรือผลเกรดเฉลี่ยอีกต่อไปแล้ว