STEM เป็นหลักสูตรการเรียนรู้ที่รวบศาสตร์ความรู้พื้นฐานทั้ง 4 แขนงเข้าด้วยกัน ได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม คณิตศาสตร์ แทนที่เราจะสอนทั้งสี่วิชาแยกกัน STEM เป็นแนวคิดที่นำเอาวิชาทั้งหมดรวมเข้าเป็นหลักสูตรเดียวโดยมีเป้าหมายในการสอนให้นำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตจริง จุดเริ่มต้นของมันเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา จากรายงานของกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐพบว่ามีนักเรียนมัธยมเพียง 16% เท่าที่สนใจอาชีพ STEM โดยมีทักษะในด้านคณิตศาสตร์สูงกว่าปกติ
ปัจจุบันนี้เกือบร้อยละ 28 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเริ่มหันมาสนใจในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ STEM มากขึ้น โชคร้ายที่ 57 เปอร์เซ็นต์ของนักเรียนเหล่านี้จะหมดความสนใจเมื่อพวกเขาจบการศึกษาออกไป เป็นผลให้ประธานาธิบดีโอบามาประกาศแคมเปญ “Educate to Innovate” เพื่อกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนเก่งในวิชา STEM แคมเปญนี้ยังทำให้รู้ได้ว่าประเทศกำลังประสบปัญหาในด้านบุคลากรที่มีทักษะไม่เพียงพอที่จะให้ความรู้ในวิชาเหล่านี้ เป้าหมายในการจำทำโครงการนี้ก็เพื่อให้นักเรียนชาวอเมริกันมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อยู่ในอันดับต้นๆในระดับเวทีโลก
ความสำคัญของการศึกษา STEM
ภายในปี 2561 ประมาณการว่าความต้องการแรงงานในงานที่เกี่ยวข้องกับ STEM อยู่ที่ 8.65 ล้านคน ภาคการผลิตประสบปัญหาการขาดแคลนพนักงานจำนวนมากอย่างน่าตกใจ ด้วยสาเหตุแรงงานไม่มีทักษะเพียงพอ สำหรับสาขาที่ต้องการนั้นประกอบไปด้วย คอมพิวเตอร์ 71 เปอร์เซ็น, วิศวกรรม 16 เปอร์เซ็น, วิทยาศาสตร์กายภาพ 7 เปอร์เซ็น, คณิตศาสตร์ 2 เปอร์เซ็น และชีววิทยา 4 เปอร์เซ็น งาน STEM ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นต้องใช้วุฒิการรับรองระดับปริญญาตรีขึ้นไปหรือสูงกว่า เงินเดือนเริ่มต้นเฉลี่ยสำหรับงาน STEM ระดับเริ่มต้นที่มีวุฒิปริญญาตรีจะมีรายได้ที่สูงกว่างานที่ไม่ใช่ STEM มากถึง 26 เปอร์เซ็น
นี่ไม่ใช่ปัญหาเพียงเฉพาะของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น อังกฤษก็ยังเป็นประเทศที่กำลังประสบปัญหาเช่นกัน พวกเขาจะต้องสร้างแรงงานใหม่ให้ได้ 100,000 คนทุกปีเพื่อตอบสนองความต้องคนในตลาดแรงงาน อีกหนึ่งประเทศตัวอย่างที่จะหยิบยกมาพูดถึงกันก็คือประเทศเยอร์ พวกเขากำลังประสบกับปัญหาขาดแรงงานกว่า 200,000 คนในสาขาคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ และสาขาวิชาเทคโนโลยี ดังนั้นทั้งหลายประเทศต่างก็ต้องแข่งกันในด้านพัฒนาการศึกษาให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่อง STEM ที่หลายคนยังขาดความรู้ความเข้าใจว่ามันคืออะไร ส่วนในประเทศไทยเองก็เริ่มจะมีการตื่นตัวในเรื่องนี้แล้วเช่นกัน
ประเทศไทยด้วยแกนนำจาก สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ สสวท. ได้เริ่มส่งเจ้าหน้าที่ไปอบรมครูผู้สอนเกี่ยวกับเรื่อง STEM ในสถาบันการศึกษาหลายแห่ง มีการจัดการ อบรมออนไลน์ ขึ้นทุกปี มีศูนย์ฝึกอมรมมากกว่าหลายสิบแห่งเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจจะศึกษาเผยแพร่ความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้นักศึกษาไทยหันมาสนใจในเรื่องนี้มากขึ้น เช่นการทำโครงการประกวดโครงงานระหว่างโรงเรียนเป็นต้น